FED Federal Funds Rate Effect to Gold and Forex Market

FED ตรึงอัตราดอกเบี้ย ไปอีก 2 ปี ส่งผลต่อตลาดทองและ Forex อย่างไร?               
By: นายคนนั้น 

 Advertisement

            หลังจากซบเซามาเนิ่นนาน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นบ้าง สำหรับการประชุม FED หรือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งแรกของปีนี้ ในวันที่ 26 มกราคม 2012 ก็มีผลการประชุม ตามที่ตลาดทุนทั่วโลกคาดหวังและอยากจะเห็นครับ ความแตกต่างของการประชุมในครั้งนี้ ที่ต่างกับ ครั้งที่ผ่านๆ มาคือ รอบนี้เป็นการใช้รูปแบบการสื่อสารใหม่ครับ โดยปกติที่ผ่านมานั้น เมื่อ FED ประชุมกัน จะไม่มีการให้ข่าว เรื่องนโยบายหรือมุมมอง ของที่ประชุม FED แต่ตลาด และนักลงทุน ต้องตีความกันไปเองครับ จะไม่บอกตรงๆ ซึ่ง ที่ผ่านมา ก็สร้างความผันผวนให้กับตลาดเงิน ตลาดทุน อย่างมากอยู่เหมือนกัน คราวนี้ เค้าจึงปรับวิธีการสื่อสารใหม่ครับ แจกชีตกันเลยทีเดียว มีตารางแผนการแจกให้ื่อมวลชนกันเลย ส่วนหลังจากการประชุมแล้ว ประธาน FED ก็ออกมา แถลงเลย ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณอ้อมๆ อย่างที่ผ่านมา

นาย เบน เบอนาเก้ แถลงนโยบายของ FED 26 ม.ค. 2012
            ทีนี้เรื่องมันก็สนุกตรงที่ว่า คุณ เบน เบอนาเก้ ประธานเฟด ออกมาบอกกันโต้งๆ เลยว่า FED มีมาตราการในการ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ระดับ 0-0.25% กันไปอย่างน้อยก็ กลางปี 2014 (อีก 2 ปีกว่า) ซึ่งแท้จริง สหรัฐฯ เองก็ใช้อัตราดอกเบี้ยนี้มา เป็นเวลา 3 ปี นับแต่ วิกฤต Hamburger Crisis แล้วล่ะครับ การคงอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลอะไรกับ ตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ อย่างทองคำ เงิน แพตทินั่ม และ อัตราแลกเปลี่ยน นะ???? นักเทรด Forex  หลายท่านคงมีคำถามสงสัยอยากรู้แล้ว วันนี้จะมาอธิบายคร่าวๆ ให้ฟังพอสังเขปครับ

          เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบาย ต่ำมันจะส่งผล ในการกระตุ้นการใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะ ดอกเบี้ยเงินฝากมันจะต่ำมาก เสมือนหนึ่งเอาเงินไปฝังดิน ฝากไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าอยากให้เงินงอกต้องเอาไปลงทุนครับ ซึ่ง จะทำให้ เงินไหลเข้าไปในตลาดหุ้น และ ทองคำ มากขึ้น เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดนเฉลี่ยแล้วในระยะยาว หากลงทุนในหุ้น และทองคำ จะให้ผลตอบแทน ประมาณ 10% และ 5% ตามลำดับครับ แต่ในขณะที่เศรษฐกิจ สหรัฐ และ ยุโรป และญี่ปุ่น อยู่ในภาวะ ถดถอย และ ชะลอตัวอย่างนี้เงิน ก็จะไหลเข้า เอเซีย และ ลาตินอเมริกา ครับ ส่งผลให้มีกระแสเงินทุน หรือ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้น และพันธบัตรของประเทศ ต่างๆ เหล่านั้น (รวมถึงไทยนะครับ) แบบนี้นักเทรด Forex ทองคำ และหุ้นก็ได้เฮกันแน่นอนครับ *0*

ผลกระทบต่อ ค่าเงิน  >>> เมื่อ FED ประกาศดังนั้น ก็จะทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงครับ เพราะ เมื่อดอกเบี้ยไม่ขึ้น ต้นทุนการกู้เงิน ก็จะต่ำออกไปถึง 2 ปี ความเสี่ยงในการลงทุนก็จะต่ำครับ นักลงทุนก็จะ ขายเงิน USD ออก และเอาไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อการลงทุน แทนครับ ซึ่ง เงินเหล่านี้ ก็จะไป เข้าสู่ตลาดทองคำ เงิน และ ตลาดหุ้น ส่วน USD เมื่อถูกขายก็จะอ่อนค่าลงครับ ส่งผลให้ ค่าเงิน ที่เทียบกับ USD จะแข็งค่าขึ้นโดยบริยาย เช่น เงินบาท แข็งขึ้น 27 สตางค์ต่อ 1 ดอลล่าสหรัฐนะครับ

สำหรับ EUR หรือเงินยูโร ก็จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับ USD เช่นกัน หรือถ้าพูดให้ถูกก็ คือ USD มันอ่อนลงเองนั่นแหละครับ กลไกมันเป็นแบบนี้ครับ ^^ มาดูกราฟกันครับ


ค่าเงิน USD เมื่อเทียบกับ EUR อ่อนค่าลงทันทีส่งผลให้ กราฟ EUR/USD พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
           
            ผลกระทบต่อตลาดทองคำ >>>> ทางด้านตลาดทองคำก็ไม่น้อยหน้าเลยครับ เงินไหลเข้าทันทีทันใด จนสุดคืนเนี่ย ราคาทองคำขึ้นมา ประมาณ 44 ดอล/ออนซ์ เช้าวันนี้ ราคาทอง 96.5% ในประเทศไทยเอง โดยสมาคมค้าทองคำ ก็บวกไป ถึง 600 บาท/บาททองคำ จากราคาปิดเมื่อวาน 24750 บาท จากการที่ราคาทองคำโลก ขึ้นมา  44 USD/ออนซ์  25350 บาททีเดียว

มาดูกราฟ การเทรดทองของผม กับ การคาดการณ์ เรื่องดอกเบี้ยนี้กันบ้างนะครับ 
(มีทั้งทอง และเงิน)
กราฟ Spot ทองคำโลก พุ่งขึ้น ปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 4 เดือน จากการประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยของ FED
จากการ ดู 2 กราฟ นี้จะเห็นได้ว่า การประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยนี้ จะส่งผลกระทบ ต่อ สินทรัพพย์เสี่ยง อย่างทองคำ และ เงิน ค่อนข้างมากนะครับ ซึ่ง ผมเองก็มีการวางแผนสำหรับกาารเทรดครั้งนี้ มากว่า 2 เดือน การลงทุนต้องมีการวางแผนนะครับ และ ข่าว และปัจจัยพื้นฐานนั้น สามารถสร้างผลกำไรให้คุณได้เช่นเดียวกับ การใช้เทคนิคในการเทรด Forex และทองคำ เพียงแต่ต้องเข้าใจความหมายที่ที่มาที่ไปของตัวเลขเศรษฐกิจ และ นโยบายต่างๆ ได้นะครับ สำหรับอนาคต เราคาดว่า น่าจะ มีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ ของ สหรัฐ หรือ QE3 และ ของยุโรป และ อาจตามด้วยจีน ในปีนี้ด้วย ถ้าใครพิมพ์เงิน เงินคนนั้นก็อ่อนครับ เราต้องจับตาดูกัน ^^